การใช้ Laravel

Thursday, August 13, 2015

การสร้าง Database by terminal[Ubuntu]

การสร้าง Database by terminal[Ubuntu]

เปิดโปรแกรม Terminal

mysql -u ...ชื่อ.... -h ....ชื่อ localhost.... -p
(mysql -u root -h localhost -p)

Enter password: ...รหัสผ่าน Database...

ใช้คำสั่งนี้เพื่อเข้าไปยัง mysql

mysql -u root -p

เลือกข้อมูล

select database();

เลือกใช้งาน
use mysql;

สร้าง Database

create database ....ชื่อ Database.....;
(create database test_create01;)

use ....ชื่อ Database.....;

(use test_create01);

select database();

ถ้าสำเร็จ กดแสดง Database จะมีที่เราสร้างขึ้นมา

คำสั่งที่เกี่ยวข้อง
แสดงข้อมูล            show databases;
เลือกข้อมูล         select database();
เลือกใช้งาน            use mysql;
ดูชื่อผู้ใช้งาน           select host,user from user;
ดูชื่อผู้ใช้งานmysql select host,user from mysql.user;
ลบช้อมูล                 drop database ....ชื่อ Database.....;

การติดตั้ง phpMyAdmin บน Ubuntu 14.04

ขั้นตอนการติดตั้ง phpMyAdmin

1. ทำการเปิด Terminal ขึ้นมาแล้วพิมพ์คำสั่งดังนี้

sudo apt-get install phpmyadmin

2. ระบบจะแสดงคำถาม

Do you want to continue [Y/n]?

ให้ตอบ Y แล้วกด Enter

Web server to reconfigure automatically

ให้ตอบ apache2 แล้วกด Enter

Configure database for phpmyadmin with dbconfig-common?

ให้ตอบ No แล้วกด Enter

รูปที่ 1

รูปที่ 2

3. สร้างลิงค์เพื่อเรียก phpmyadmin จาก browser โดยพิมพ์คำสั่งดังนี้ลงในย Terminal


sudo ln -s /usr/share/phpmyadmin/ /var/www/phpmyadmin

4. เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว ให้ทดสอบโดยใช้ browser เปิด http://localhost/phpmyadmin จะได้ผลดังนี้

รูปที่ 3

Wednesday, August 5, 2015

ขั้นตอนการติดตั้ง Laravel 4 ลงบน Ubuntu 14.04 LTS

เปิด Terminal ขึ้นมาแล้วใช้คำสั่งด้านล่างนี้ ติดตั้งตามขั้น

ติดตั้ง Tasksel

sudo apt-get -y install tasksel

ติดตั้ง LAMP

sudo tasksel install lamp-server

ติดตั้ง Install PHPMyAdmin

sudo apt-get install phpmyadmin

กำหนดสิทธิการใช้งานส่วนของ directory ที่เกี่ยวข้อง

sudo chgrp www-data /var/www

sudo chmod 775 /var/www

sudo chmod g+s /var/www

sudo usermod -a -G www-data <ชื่อ username เครื่อง> *** ไม่ต้องใส่ <>

sudo chown <ชื่อ username เครื่อง> /var/www/ *** ไม่ต้องใส่ <>

ติดตั้ง Curl

sudo apt-get install php5-curl

ติดตั้ง Mycrypt

sudo apt-get install php5-mcrypt

Activate Mycrypt

sudo php5enmod mcrypt

sudo service apache2 reload

Enable Mod-Rewrite

sudo a2enmod rewrite

sudo service apache restart

ดาวโหลด laravel 4

https://github.com/laravel/laravel/archive/v4.2.11.zip

แตกไฟล์ออกมา คัดลอกแล้วทำการย้าย Folder Laravel ไปยัง /var/www/

ติดตั้ง Composer

curl -sS https://getcomposer.org/installer | sudo php

sudo mv composer.phar /usr/local/bin/compose

ทำการติดตั้ง laravel

sudo cd /var/www/laravel

sudo composer install

ตั้งค่า Virtual host

- sudo cp /etc/apache2/sites-available/000-default.conf /etc/apache2/sites-available/laravel.conf

- sudo nano /etc/apache2/sites-available/laravel.conf

แก้ และ เพิ่ม ภายในไฟล์ดังนี้

DocumentRoot /var/www/laravel/public

Options Indexes FollowSymLinks MultiViews

AllowOverride All

Order allow,deny

allow from all

</Directory>

รีโหลด apache2

- sudo service apache2 reload

ปิดการใช้งานไฟล์ 000-default.conf

- sudo a2dissite 000-default.conf

เปิดการใช้งานไฟล์ Laravel.conf

- sudo a2ensite laravel.conf

ทำการ Reload Apache2 อีกครั้ง

- sudo service apache2 reload

แล้วทำการทดสอบ โดยเข้าไปที่ localhost หากแสดงรูปดังกล่าว ถือว่าเสร็จสมบูรณ์

การลง Git และการใช้งาน bitbucket ใน Ubuntu

ขั้นตอนการติดตั้ง Bitcucket และการใช้งานรวมกับ Git

คำสั่งติดตั้ง Git

$ sudo apt-get install git

Url สำหรับสมัครสมาชิกเพื่อใช้งาน

https://bitbucket.org

คำสังสำหรับเชื่อต่อ Git ในเครื่องกับ Sever

$ git config --global user.name “...ชื่อของผู้ใช้งาน..”

$ git config --global user.email “...อีเมลล์ของผู้ใช้งาน..”

ไปทำการสร้างไฟล์ ที่จะเป็น Baseline ไว้ใน Url.. ของ Bitbucket

ทำการสร้าง folder

$ mkdir ….ตามด้วย ชื่อของfolder ที่เราสร้าง...

(เช่น git_create_bitbuckets)

$ cd git_create_bitbuckets/

หลังจากนั้นทำการ

echo "# git_create_bitbuckets" >> README.md

ทำการสร้างไฟล์ README.mdไว้ในFolder git_create_bitbuckets

$ git init


$ git add README.md

$ git commit -m "first commit"

$ git remote add origin ….............Url ที่เก็บ

(https://methawin@bitbucket.org/se496/git_create_bitbucket.git)

$ git push -u origin master

ตรวจสอบไฟล์
ถ้ามีทำต่อ

$ ls

ทำการเพิ่มไฟล์(ในที่นี้จะสร้างมา)

$ nano ..ชื่อ-สกุลไฟล์....

(abc.txt)

พิมข้อความข้างใน
กด Alt x + Y + Enter

$ git add …...ชื่อ-สกิลไฟล์/folder...

(abc.txt)

$ git commit -m “.....สิ่งที่เราต้องการบอก......”

(abc.txt)

ทำการยืนยันการสร้างทำการส่งไฟล์เช้าไปยังSeverของBitbucket

$ git push -u origin master

***** กรณีที่ให้ใส่ Password

Username : email

Password : รหัสผ่านที่ตั้งไว้

คำสั่งที่ใช้ร่วม

ls เพื่อดูรายละเอียดภายใน folder

nano แก้ไข

sudo เพื่อใช้สิธธิในการเข้าถึง(ใช้คำสั่งนี้นำหน้า กรณีที่ไม่สามารถทำได้)

cd การเข้าถึง folder

cd .. ย้อนกลับไปก่อนหน้า

Tuesday, August 4, 2015

ขั้นตอนการติดตั้ง Ubuntu พร้อมกับ Windows 7

สิ่งที่ต้องใช้
1. โน๊ตบุ๊ค หรือ คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง

2. Windows 7 เคยติดตั้ง
3. โปรแกรม Minitool partition wizard ไว้สำหรับจัดการแบ่งพาร์ทิชั่นที่ต้องการจะลง Ubuntu

4. แผน DVD / USB สำหรับทำการ boot ไฟล์ Ubuntu เพื่อทำการติดตั้ง

** คำเตือน **
ควรทำการสำรองข้อมูลก่อนทำการติดตั้ง หรือ แบ่งพาร์ทิชั่น เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูล หรือ ข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง

ขั้นตอนการติดตั้ง
1. ทำการแบ่งพาร์ทิชั่น ที่มีอยู่ โดยใฃ้โปรแกรม Minitool

2. เมื่อเข้ามาโปรแกรมจะแสดงไดร์ฟที่เรามีทั้งหมด ให้เลือกมาไดร์ฟนึง (ไดร์ฟอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ไดร์ฟ C (ไดร์ฟไฟล์ระบบ) )

3. เมื่อเลือกไดร์ฟได้แล้ว ให้ทำการคลิ๊กขวาที่ไดร์ฟดังกล่าว แล้วเลือกเมนู Resize
โปรแปรมจะให้ผู้ใช้เลือกว่าต้องการแบ่งพาร์ทิชั่นออกไปจำนวนเท่าไหร่ (Ubuntu ต้องการหน่วยความจำอย่างน้อย 20 Gb) ให้เลือกตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับขนาดของ Harddisk ของแต่ละคน

4. เมื่อแบ่งออกมาให้ปล่อยไดร์ฟที่แบ่งออกมาเป็น Unallocated ไว้

5. ต่อมาจะเป็นขั้นตอนของการนำตัว Boot ติดตั้ง Ubuntu ลงไป ให้ทำตามขั้นตอนมาจนถึงเลือกรูปแบบการติดตั้ง Ubuntu ลงไป ให้เลือก “Something else”

6. จากนั้นจะเข้าสู่ส่วนของการจัดการพาร์ทิชัน ให้เราคลิกเลือกที่ free space ที่เราสร้างเตรียมไว้ กดเลือกแล้ว กดปุ่ม change แล้วตั้งค่าดังนี้

Use as = Ext4 journaling flie system

Mount point = /

มันจะมีปุ่มให้ติ๊กว่าจะ format ไหม (แนะนำให้ติ๊ก) แล้วกดปุ่ม ok หลังจากนั้นกดปุ่ม ติดตั้ง

7. ทำตามขั้นตอนจนติดตั้งเสร็จสมบูรณ์

8. เมื่อเปิดเครื่องมาระบบจะให้เลือกระหว่าง Windows 7 และ Ubuntu หากต้องการใช้ระบบอะไรก็เลือกแล้วกด Enter เท่านี้ก็สามารถใช้ Ubuntu ได้พร้อมกับ Windows 7 แล้วครับ