Wednesday, November 12, 2014

การตั้งชื่อ Host และรันโปรเจค Laravel บน Xampp โดยไม่ใช้ php artisan serve

การตั้งชื่อ Host และรันโปรเจค Laravel บน Xampp โดยไม่ใช้ php artisan serve


1. download Xampp server มาติดตั้งบนเครื่อง
2.ทำการเข้าไปแก้ไข file hosts

3.เพิ่มชื่อ Host ที่เราต้องการ

 4.ทำการเข้าไปแก้ไข File : httpd-vhosts

5.ทำการแก้ไข้ไฟล์ตามภาพ

6.นำ Project ของเราไปวางไว้บน Xampp>htdocs

7.Restart Computer
8.หลังจาก Restart ก็ทำการ Run Xampp
9.เข้า Browser พิมพ์ host ของเรา 

Thursday, May 15, 2014

การติดตั้ง git

การติดตั้ง Git

ก่อนที่จะใช้งานคุณคงต้องติดตั้ง Git ก่อน โดยคุณสามารถทำได้หลายวิธี วิธีหลักสองวิธีคือติดตั้งจากซอร์สโค้ดหรือติดตั้งจากแพคเกจที่มีอยู่แล้วสำหรับระบบปฏิบัติการของคุณ

ติดตั้งจากซอร์สโค้ด

ถ้าเป็นไปได้เราขอแนะนำให้คุณติดตั้ง Git โดยการคอมไพล์โปรแกรมจากซอร์สโค้ด เพราะคุณจะได้ใช้เวอร์ชั่นล่าสุดซึ่งมักจะมาพร้อมกับการปรับปรุงอยู่เสมอ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือแพคเกจที่มากับลีนุกซ์หลายรุ่นเป็นแพคเกจเวอร์ชั่นเก่ามาก ถ้าคุณไม่ได้ใช้ลีนุกซ์รุ่นล่าสุดหรือใช้ backport การติดตั้งจากซอร์สโค้ดน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ก่อนอื่นคุณต้องเตรียม library ที่จำเป็นเสียก่อน คือ curl, zlib, openssl, expat และ libiconv โดยคุณสามารถใช้ yum (ถ้าคุณใช้ Fedora) หรือ apt-get (ถ้าคุณใช้ระบบแบบ Debian) เพื่อติดตั้ง:
$ yum install curl-devel expat-devel gettext-devel \
  openssl-devel zlib-devel

$ apt-get install libcurl4-gnutls-dev libexpat1-dev gettext \
  libz-dev
หลังจากที่ติดตั้งโปรแกรมที่จำเป็นแล้วก็ถึงเวลาดาวน์โหลดเวอร์ชั่นล่าสุดของ Git โดยใช้คำสั่ง:
http://git-scm.com/download
จากนั้นก็คอมไพล์และติดตั้ง:
$ tar -zxf git-1.6.0.5.tar.gz
$ cd git-1.6.0.5
$ make prefix=/usr/local all
$ sudo make prefix=/usr/local install
หลังจากติดตั้งเรียบร้อยคุณสามารถดึงซอร์สโค้ดของ Git มาเพื่ออัดเกรดได้โดยใช้ตัวโปรแกรม Git เอง:
$ git clone git://git.kernel.org/pub/scm/git/git.git

การติดตั้งบนลีนุกซ์

ถ้าคุณต้องการติดตั้ง Git บนลีนุกซ์โดยใช้แพคเกจสำเร็จรูป คุณสามารถใช้ระบบจัดการแพคเกจที่มากับระบบปฏิบัติการของคุณได้เลย เช่น ถ้าคุณใช้ Fedora คุณสามารถติดตั้งผ่าน yum โดยใช้คำสั่ง:
$ yum install git-core
หรือถ้าคุณใช้ระบบแบบ Debian อย่าง Ubuntu คุณสามารถติดตั้งผ่าน apt-get ได้:
$ apt-get install git

การติดตั้งบนแมค

There are two easy ways to install Git on a Mac. The easiest is to use the graphical Git installer, which you can download from the SourceForge page (see Figure 1-7):
http://sourceforge.net/projects/git-osx-installer/

Figure 1-7. Git OS X installer.
The other major way is to install Git via MacPorts (http://www.macports.org). If you have MacPorts installed, install Git via
$ sudo port install git-core +svn +doc +bash_completion +gitweb
You don’t have to add all the extras, but you’ll probably want to include +svn in case you ever have to use Git with Subversion repositories (see Chapter 8).

Installing on Windows

Installing Git on Windows is very easy. The msysGit project has one of the easier installation procedures. Simply download the installer exe file from the GitHub page, and run it:
http://msysgit.github.com/
After it’s installed, you have both a command-line version (including an SSH client that will come in handy later) and the standard GUI.

ตอนที่1 การติดตั้ง Laravel ร่วมกับ Wamp บน windown7

 1.ทำการติดตั้ง php webserver ก่อน ในกรณีนี้ทางผมจะใช้โดยใช้  wamp
2. ตรวจสอบ php ว่าสามารถรันได้ไหมจาก php -v ใน Command Prompt ก่อนเลยครับ
ถ้าเปิดหน้าต่างขึ้นมาแล้วพิมพ์เข้าไปว่า php -v แล้วแสดงผลประมาณนี้ถือว่า ผ่านแล้วครับ

แต่ถ้าไม่ขึ้นมาอย่างที่เห็นแบบนี้ต้องปรับแต่งระบบกันหน่อยแล้วล่ะจ้า
โดยที่คลิกขวาที่ My Computer > Properties > Enviroment Variables... ที่ช่อง System variables เลือก Path แล้วก็คลิกที่ Edit... ในช่อง Variable value ก็ใส่พาธที่อยู่ของ php.exe ของเราลงไป

หลังจากที่ OK > OK > OK เสร็จแล้วก็ให้ Log Off ออกจากระบบ 1 ที แล้ว Log In เข้ามาใหม่
แล้วลอง php -v ดู ถ้าได้ถือว่า ผ่าน จ้า










จากนั้นเช็ก php.ini ของเราว่าได้เซ็ต extension=php_openssl.dll ไว้แล้วรึยัง โดยที่ตัว php.ini ที่ว่านี้จะอยู่ใน bin\php\phpX.X.XX (ตามเวอร์ชั่นที่เราใช้เลย)

เผื่อใครจะงง ว่าเห้ย! เซ็ตตรง Task bar ที่หน้าตาเหมือนภาพด้านล่างนี้ไปแล้วนี่หว่า แล้วจะเซ็ตทำหอยอะไรอีกรอบ

คือไอ่ตัวที่เราชอบตั้งค่าตรง Taskbar นั่นน่ะมันเป็นตัว default ของ WAMP มันจะอยู่ใน bin\apache\Apache2.2.21\bin\ ตัวนี้เราไม่ต้องไปสนใจมัน โอเคนะ
* จะให้ชัวร์คือ ก๊อบ php.ini จากใน bin\apache\Apache2.2.21\bin\ มาใส่ไว้ใน bin\php\ เลยดีกว่า

จากนั้นตรวจสอบดูจากใน phpinfo() ดูว่า openssl เปิดแล้วรึยัง ถ้าเปิดแล้วก็โอเค๊ ไปต่อได้เล๊ย

ต่อไปมาถึงคิวของ Composer โดยเค้าจะมีตัว .exe ให้เราติดตั้งได้ทันที(ดาวโหลด Composer-Setup.exe)
อ่าน อ่าน อ่าน - Composer การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก PHP




คลิก Next > Next > Install > Finish ก็เสร็จแล้วแจ๊

ทดสอบด้วยการใช้ composer -v ผ่าน Command Prompt

ถ้าแสดงผลแบบนี้ก็โอเคแล้วแจ๊ หรือใครจะ Install Manual ก็ทำได้นะ (http://getcomposer.org/doc/00-intro.md#installation-windows)

ต่อไปก็ถึงขั้นตอนของการติดตั้ง Laravel (http://laravel.com/docs/quick#installation)
composer create-project laravel/laravel your-project-name --prefer-dist
ตัวนี้คือที่ใน Document เค้าบอกมา

ให้เราเข้าไปในโฟเดอร์ของเราก่อน ผ่าน cmd แล้วก็รันคำสั่งที่เค้าให้มาได้เลย โดยที่ตรงคำว่า your-project-name มันคือชื่อโปรเจคของเรานะ จะเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรก็ได้แล้วแต่เราเลย
ประมาณนี้ (คลิกดูรูปเต็ม คลิกๆ)
จากนั้น ก็ต้อง composer install อีกทีหนึ่ง


จะรอช้าทำม๊าาาย ลองเข้าไปดูเล๊ยยยย

การติดตั้ง Wamp server บน windown

WAMP คือโปรแกรมที่รวมเอา Apache + PHP + MySQL มาไว้ในตัวเดียวทำให้เราไม่จำเป็นที่จะต้องติดตั้งแยกเป็นรายตัว สำหรับผู้ที่ต้องการจะเขียนโปรแกรม PHP ที่รันอยู่บนเครื่อง Window แล้ว WAMP จำเป็นอย่างมากที่จะสร้าง Environment บน Window ได้อย่างง่ายดาย

ตามในบทความนี้เราจะติดตั้ง WAMP บน Window 7 โดย WAMP ที่ใช้จะเป็นเวอร์ชั่น 2.2d สามารถดาวโหลดได้จาก WAMP Download ตัวไฟล์จะมีขนาดประมาณ 25MB เมื่อได้มาแล้วก็ดับเบิ้ลคลิ๊กจะขึ้นหน้าจอตามรูป

เลือก Next


เลือก I accept the agreement


คลิ๊ก Next ถ้าเราไม่จ้องการระบุ path อื่นที่จะติดตั้ง WAMP


ในหน้าจอนี้จะติ๊กเลือกหรือไม่เลือกก็ได้ ถ้าเลือกจะเป็นการสร้าง ICON ไว้ที่หน้าจอ Desktop และ Quick Launch


ในหน้านี้จะรายการผลค่าที่เราได้เซ็นไปทั้งหมด คลิ๊ก Install เพื่อติดตั้ง


ตัวโปรแกรมจะเริ่มติดตั้งให้รอจนกว่าโปรแกรมจะติดตั้งเสร็จ


ในระหว่างที่ติดตั้งโปรแกรมจะมีการถามว่า ต้องการเลือก Browser ไหนเป็น Default Browser ให้เราคลิ๊ก No เพราะเราจะยังให้ IE เป็น Default Browser เหมือนเดิม


คลิ๊ก Open


คลิ๊ก Next


ในหน้านี้จะบอกถึงว่าเราได้ติดตั้ง WAMP Server เรียบร้อยแล้ว คลิ๊ก Finish เพื่อ Start WAMP Server

เริ่มทดสอบว่า WAMP Server ที่เราได้ติดตั้งลงไปใช้งานได้หรือเปล่าด้วยการเป็น Browser ขึ้นมาแล้วใส่ http://localhost ลงใน Address bar ถ้าสำเร็จผลลัพธ์ควจจะได้ประมาณนี้


หรือเราสามารถดูได้จาก ICON ใน Tray Window ก็ได้ถ้า WAMP Server ทำงานได้ถูกต้องทุกอย่าง ICON [W] ต้องเป็นสีเขียว, ถ้าเป็นสีส้มแสดงว่าบาง Service อาจทำงานไม่ถูกต้อง เช่น MySQL ไม่สามารถ Start service ได้ เป็นต้น


เราสามารถที่จะ Stop หรือ Start Service ต่างๆของ WAMP Server ได้ด้วยการคลิ๊กซ้ายที่ ICON [W]



เราสามารถเริ่มเขียน PHP โปรแกรมทิดสอบง่ายได้ด้วยโค๊ดดังนี้

<?php
  phpinfo();
?>

บันทึกไปเป็นชื่อไฟล์ phptest.php ใน C:\wamp\www
จากนั่น Enter http://localhost/phptest.php ผลลัธ์ควจจะได้ดังภาพ


เพียงเท่านี้เราก็สามารถจำลองเครื่องคอมของเราเป็น Web + Database + PHP Server ได้แล้วครับ