2. ตรวจสอบ php ว่าสามารถรันได้ไหมจาก php -v ใน Command Prompt ก่อนเลยครับ
ถ้าเปิดหน้าต่างขึ้นมาแล้วพิมพ์เข้าไปว่า php -v แล้วแสดงผลประมาณนี้ถือว่า ผ่านแล้วครับ
แต่ถ้าไม่ขึ้นมาอย่างที่เห็นแบบนี้ต้องปรับแต่งระบบกันหน่อยแล้วล่ะจ้า
โดยที่คลิกขวาที่ My Computer > Properties > Enviroment Variables... ที่ช่อง System variables เลือก Path แล้วก็คลิกที่ Edit... ในช่อง Variable value ก็ใส่พาธที่อยู่ของ php.exe ของเราลงไป
หลังจากที่ OK > OK > OK เสร็จแล้วก็ให้ Log Off ออกจากระบบ 1 ที แล้ว Log In เข้ามาใหม่
แล้วลอง php -v ดู ถ้าได้ถือว่า ผ่าน จ้า
แต่ถ้าไม่ขึ้นมาอย่างที่เห็นแบบนี้ต้องปรับแต่งระบบกันหน่อยแล้วล่ะจ้า
โดยที่คลิกขวาที่ My Computer > Properties > Enviroment Variables... ที่ช่อง System variables เลือก Path แล้วก็คลิกที่ Edit... ในช่อง Variable value ก็ใส่พาธที่อยู่ของ php.exe ของเราลงไป
หลังจากที่ OK > OK > OK เสร็จแล้วก็ให้ Log Off ออกจากระบบ 1 ที แล้ว Log In เข้ามาใหม่
แล้วลอง php -v ดู ถ้าได้ถือว่า ผ่าน จ้า
จากนั้นเช็ก php.ini ของเราว่าได้เซ็ต extension=php_openssl.dll ไว้แล้วรึยัง โดยที่ตัว php.ini ที่ว่านี้จะอยู่ใน bin\php\phpX.X.XX (ตามเวอร์ชั่นที่เราใช้เลย)
เผื่อใครจะงง ว่าเห้ย! เซ็ตตรง Task bar ที่หน้าตาเหมือนภาพด้านล่างนี้ไปแล้วนี่หว่า แล้วจะเซ็ตทำหอยอะไรอีกรอบ
คือไอ่ตัวที่เราชอบตั้งค่าตรง Taskbar นั่นน่ะมันเป็นตัว default ของ WAMP มันจะอยู่ใน bin\apache\Apache2.2.21\bin\ ตัวนี้เราไม่ต้องไปสนใจมัน โอเคนะ
* จะให้ชัวร์คือ ก๊อบ php.ini จากใน bin\apache\Apache2.2.21\bin\ มาใส่ไว้ใน bin\php\ เลยดีกว่า
จากนั้นตรวจสอบดูจากใน phpinfo() ดูว่า openssl เปิดแล้วรึยัง ถ้าเปิดแล้วก็โอเค๊ ไปต่อได้เล๊ย
ต่อไปมาถึงคิวของ Composer โดยเค้าจะมีตัว .exe ให้เราติดตั้งได้ทันที(ดาวโหลด Composer-Setup.exe)
อ่าน อ่าน อ่าน - Composer การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก PHP
คลิก Next > Next > Install > Finish ก็เสร็จแล้วแจ๊
ทดสอบด้วยการใช้ composer -v ผ่าน Command Prompt
ถ้าแสดงผลแบบนี้ก็โอเคแล้วแจ๊ หรือใครจะ Install Manual ก็ทำได้นะ (http://getcomposer.org/doc/00-intro.md#installation-windows)
ต่อไปก็ถึงขั้นตอนของการติดตั้ง Laravel (http://laravel.com/docs/quick#installation)
ให้เราเข้าไปในโฟเดอร์ของเราก่อน ผ่าน cmd แล้วก็รันคำสั่งที่เค้าให้มาได้เลย โดยที่ตรงคำว่า your-project-name มันคือชื่อโปรเจคของเรานะ จะเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรก็ได้แล้วแต่เราเลย
ประมาณนี้ (คลิกดูรูปเต็ม คลิกๆ)
จากนั้น ก็ต้อง composer install อีกทีหนึ่ง
จะรอช้าทำม๊าาาย ลองเข้าไปดูเล๊ยยยย
คือไอ่ตัวที่เราชอบตั้งค่าตรง Taskbar นั่นน่ะมันเป็นตัว default ของ WAMP มันจะอยู่ใน bin\apache\Apache2.2.21\bin\ ตัวนี้เราไม่ต้องไปสนใจมัน โอเคนะ
* จะให้ชัวร์คือ ก๊อบ php.ini จากใน bin\apache\Apache2.2.21\bin\ มาใส่ไว้ใน bin\php\ เลยดีกว่า
จากนั้นตรวจสอบดูจากใน phpinfo() ดูว่า openssl เปิดแล้วรึยัง ถ้าเปิดแล้วก็โอเค๊ ไปต่อได้เล๊ย
ต่อไปมาถึงคิวของ Composer โดยเค้าจะมีตัว .exe ให้เราติดตั้งได้ทันที(ดาวโหลด Composer-Setup.exe)
อ่าน อ่าน อ่าน - Composer การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก PHP
คลิก Next > Next > Install > Finish ก็เสร็จแล้วแจ๊
ทดสอบด้วยการใช้ composer -v ผ่าน Command Prompt
ถ้าแสดงผลแบบนี้ก็โอเคแล้วแจ๊ หรือใครจะ Install Manual ก็ทำได้นะ (http://getcomposer.org/doc/00-intro.md#installation-windows)
ต่อไปก็ถึงขั้นตอนของการติดตั้ง Laravel (http://laravel.com/docs/quick#installation)
composer create-project laravel/laravel your-project-name --prefer-dist
ตัวนี้คือที่ใน Document เค้าบอกมาให้เราเข้าไปในโฟเดอร์ของเราก่อน ผ่าน cmd แล้วก็รันคำสั่งที่เค้าให้มาได้เลย โดยที่ตรงคำว่า your-project-name มันคือชื่อโปรเจคของเรานะ จะเปลี่ยนเป็นชื่ออะไรก็ได้แล้วแต่เราเลย
ประมาณนี้ (คลิกดูรูปเต็ม คลิกๆ)
จากนั้น ก็ต้อง composer install อีกทีหนึ่ง
จะรอช้าทำม๊าาาย ลองเข้าไปดูเล๊ยยยย
No comments:
Post a Comment